Cloud CCTV: The Smarter Way to Secure Your Business

Why Cloud-Based CCTV (like Verkada)?

ระบบกล้องวงจรปิดบนคลาวด์คืออะไร?

ในยุคที่เทคโนโลยีคลาวด์เข้ามาเป็นหัวใจของการทำงาน องค์กรในประเทศไทยเริ่มหันมาสนใจ “Cloud CCTV” หรือ ระบบกล้องวงจรปิดบนคลาวด์ มากขึ้น เพราะช่วยให้การดูแลรักษาความปลอดภัยง่ายกว่าเดิม ไม่ต้องดูแลเครื่องบันทึก (NVR) และสามารถดูภาพได้จากทุกที่ทุกเวลา

On-Premise CCTV คือระบบกล้องแบบดั้งเดิมที่ต้องมีเครื่องบันทึกภายในอาคาร เก็บข้อมูลไว้ในฮาร์ดดิสก์ และดูภาพได้เฉพาะในเครือข่ายภายใน หรือการเปิดการต่อเชื่อมแบบเฉพาะจากภายนอก

Cloud CCTV เช่น Verkada ใช้สถาปัตยกรรมแบบ “Hybrid Cloud” — กล้องบันทึกภาพภายในตัวเอง (on-board storage) และส่งขึ้นคลาวด์อัตโนมัติ ทำให้สามารถดูภาพได้ผ่านเว็บหรือมือถือจากทุกที่

จุดเด่นของ Cloud CCTV สำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย

ดูภาพได้จากทุกที่ ทุกเวลา

เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีหลายสาขา เช่น ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ หรือสำนักงานในจังหวัดต่าง ๆ ผู้บริหารสามารถดูภาพสดหรือย้อนหลังจากหน้าจอเดียว ไม่ต้องใช้ VPN หรือเครื่องบันทึกหลายตัว

ติดตั้งง่ายและขยายระบบได้เร็ว

Cloud CCTV ลดจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องติดตั้ง เพียงต่อกล้องเข้าระบบเครือข่ายและเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มบนคลาวด์ก็ใช้งานได้ทันที หากต้องเพิ่มกล้องหรือสาขาใหม่ก็ทำได้รวดเร็วโดยไม่ต้องลงทุนซื้อ NVR เพิ่ม

การจัดการแบบรวมศูนย์ (Centralized Management)

ผู้ดูแลสามารถจัดการสิทธิ์ผู้ใช้ ดูสถานะกล้อง แจ้งเตือน และเรียกดูภาพย้อนหลังของทุกสาขาผ่าน Dashboard เดียว — เหมาะกับองค์กรที่ต้องการควบคุมระบบความปลอดภัยจากส่วนกลาง

 

การลงทุนที่ชัดเจนและยืดหยุ่น

ในกรณีของ Verkada, ผู้ใช้ “เป็นเจ้าของกล้อง” แต่เลือกชำระค่า License Software ตามระยะเวลาใช้งาน 1, 3, 5 หรือ 10 ปี ซึ่งครอบคลุมบริการ Cloud Platform, AI Analytics, และการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง

✅ ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน

✅ ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องบำรุงรักษา

✅ การรับประกันและซัพพอร์ตตลอดอายุสัญญา

 

ความปลอดภัยของข้อมูลและการสำรองอัตโนมัติ

ภาพถูกเข้ารหัสและเก็บสำรองไว้ในคลาวด์ ป้องกันการสูญหายจากการขโมยหรือไฟไหม้ ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญของระบบ Cloud สำหรับประเทศไทยที่อาจมีความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ

Hybrid Cloud เหมาะที่สุดสำหรับตลาดไทย

สำหรับบางพื้นที่ที่อินเทอร์เน็ตยังไม่เสถียร Verkada ใช้แนวทาง “Hybrid Cloud” โดยกล้องยังบันทึกภาพภายในตัวเองได้ต่อเนื่อง (สูงสุด 30 วัน) แม้ขาดสัญญาณอินเทอร์เน็ต แล้วอัปโหลดขึ้นคลาวด์เมื่อเชื่อมต่ออีกครั้ง

สรุป: Cloud CCTV คืออนาคตของระบบรักษาความปลอดภัยในไทย

Cloud CCTV ช่วยให้ธุรกิจในประเทศไทยทำงานอย่างปลอดภัย ยืดหยุ่น และควบคุมได้มากขึ้น โดยไม่ต้องแบกรับภาระการดูแลระบบเอง

หากคุณต้องการโซลูชั่น Cloud CCTV ที่ครบวงจรและสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Access Control หรือ Rosetta Platform ของคุณ

ControlA พร้อมเป็นที่ปรึกษาและผู้ให้บริการโซลูชัน Cloud Security ชั้นนำในประเทศไทย

CTA (Call to Action)

สนใจทดลองระบบ Cloud CCTV หรือรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ Verkada Thailand

👉 ติดต่อทีม ControlA วันนี้ที่ VERKADA | Cloud-based CCTV — ControlA

หรือโทร. 02-248-1234

Next
Next

การเลิกจ้างตามกฎหมายแรงงาน